จุลินทรีย์ตัวแรง สำแดงใกล้ตัว

จั่วหัวให้สงสัยอีกแล้ว ว่าเกษตรดีดีเอาอารายมาโม้อีก ฮาา วันนี้ว่าด้วยเรื่องใกล้ตัวครับ จุลินทรีย์ เน้นไปด้านเกษตรนะ ไม่เกี่ยวกับด้านความงามที่เอามากินแล้วจุ๊ดๆ จนหุ่นดี ทั้งที่เรื่องแค่นี้กินผักก็จบแล้ว

ต่อล่ะจะได้ไม่พาดพิง จุลินทรีย์ใกล้ตัวยังไง?? ใกล้ตัวเราอยู่รอบกายเรา และอยู่กับเราตลอด ทั้งที่กินเข้าไป หรือกำลังจะกิน หรือจะทิ้ง ทั้งที่เรามองเห็นด้วยตาเลย และก็ไม่เห็น ที่เห็นๆ ก็ราต่างๆครับ เกิดจากการกัดกินของจุลินทรีย์ทั้งนั้นแหล่ะ แล้วจุลินทรีย์ก็มีทั้ง พวกดี และพวกเกเร ชอบมืด กับชอบแสง พอแบ่งกันง่ายๆ ก็คือ พวกดีจะให้ราขาวๆที่เราเห็นครับพวกนี้ไม่ชอบแสง และพวกไม่ดีก็จะให้ราสีดำ ชอบแสงหรือสีอื่นๆ แยกกันง่ายๆ แบบนี้ก่อนครับ

และด้วยว่าจุลินทรีย์ที่รายรอบตัวเรามีอยู่ปนๆกัน แล้วเราจะทำอย่างไรถึงจะจับเฉพาะพวกดี เอามาใช้ประโยชน์ และทิ้งพวกไม่ดีไป ฟังดูเหมือนการกรองนะครับ ก็มันลอยอยู่ในอากาศ งั้นทำเหมือนเด็กวิ่งจับหิ่งห้อยดีมั้ยครับใช้สวิงเลือกตักเอาเลยท่าจะดี ตัวไหนดีก็เก็บไว้ ตัวไหนร้ายก็ทิ้ง หรือปล่อยให้ตายไป ฟังดูเหมือนผมเพ้อเจ้อมั้ยล่ะครับ

มันเป็นไปแล้วครับ ก็ด้วยว่าเราดูและศึกษานิสัยของจุลินทรีย์จนรู้วิธีทำสวิงแล้วนะสิครับ และกระทู้ที่ผ่านๆมาก็ทำกันอยู่ ก็เจ้าน้ำหมัก หรือปุ๋ยหมักนั่นแหล่ะครับ สวิงที่ว่าล่ะ การทำน้ำหมัก และปุ๋ยหมัก ก็เหมือนเราทำหลุมดักเฉพาะจุลินทรีย์ที่ดี ลองดูส่วนประกอบคร่าวๆ ของน้ำหมักดูนะ ว่ามีอะไรเป็นหลัก สิ่งที่เหมือนกันกับปุ๋ยหมัก ซึ่งก็คืออาหารของเค้า “ความหวาน” นั่นแหล่ะอาหารโปรด แล้ววิธีการหมักก็เหมือนสวิงที่เราทำ

เพราะเมื่อรู้แล้วว่าพระเอกไม่ชอบแสง เราก็ทำการจัดที่ทาง สร้างบรรยากาศให้เหมาะแก่การอยู่อาศัยของเค้าซะเลย จัดการปิดถังหรือหาอะไรคลุม แล้ววางในร่ม พอจุลินทรีย์ที่ลอยๆอยู่มาอยู่ พวกไม่ดีก็จะทะยอยตาย เพราะไม่มีแสงให้สังเคราะห์ ทีนี้ก็เข้าทางพวกดีก็ขยายและแพร่พันธุ์ในถังเรา รู้ซะบ้างถิ่นใครเป็นถิ่นคราย แล้วพอพระเอกแพร่ขยายมากๆเข้า ก็จะเริ่มส่งกลิ่นหอมหรือฉุน แล้วแต่คนชอบ แต่ไม่ออกเหม็นแน่นอน ก็นั่นแหล่ะคือจุลินทรีย์ย่อยความหวานเป็นน้ำหมักไปแล้ว หรือปุ๋ยหมักก็มีราสีขาวเกาะ มีกลิ่นเหมือนเห็ด (หอมชุ่มๆ) และไม่ร้อน ก็เป็นอันว่าการหมักเสร็จสมบูรณ์

บอกเรื่องวิธีการมาจนหมดแล้วว่าทำยังไง วิธีการส่วนผสม คราวนี้จะโดดต่อไปอีกในเรื่องความเข้าใจเรื่องสายพันธุ์จุลินทรีย์ ว่าพันธุ์ที่ดีที่สุดก็คือพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในสวนบ้านเราเอง หรือที่เรียกว่า “จุลินทรีย์ท้องถิ่น” นั่นแหล่ะครับ ไม่ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาแต่ไหนเลย ตรงกันข้าม ถ้ามาไกลอาจจะอยู่ไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่างคนไทยทานส้มตำใส่พริก 4-10 เม็ด ก็ยังบอกพอทน แต่ฝรั่งต่างชาติอาจต้องใช้แค่พริกติดครก(เปรียบเทียบแล้วน้ำลายสอ อยากกินบ้าง) และต้องหาน้ำเย็นๆมาคอยหล่อไปกินไป

นั่นก็เพราะว่าจุลินทรีย์ท้องถิ่นอยู่กับเรามานาน มีการปรับตัวให้ชิน และทนกับสภาพอากาศบ้านเราแล้ว งั้นอย่าแปลกใจที่เห็นบางทฤษฎีที่เพาะจุลินทรีย์จากดินผุกลางป่า หรือจากโคนไผ่ ก็เพื่อเอาจุลินทรีย์ที่ว่านี่แหล่ะมาใช้

ท้ายแล้ว เข้าทางนายเกษตรดีดีอีก ก็เพื่อจะจูงใจว่า ถ้ารู้งี้แล้วคงไม่จำเป็นต้องซื้อจุลินทรีย์ หรือหัวเชื้อที่เค้าบอกว่าดีนักหนา เอามาใช้หรอกนะครับ เพราะหลังบ้านเราก็มีเต็มเลย ก็แค่สวิง เราทำเองก็ได้ เนอะ…..^_^

มีการตอบกลับหนึ่งครั้ง to “จุลินทรีย์ตัวแรง สำแดงใกล้ตัว”

  1. อินทนิน Says:

    ค่ะ..เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ มีแต่ว่าเราจะต้องนำหลักการที่ว่าให้เป็นรูปธรรม นั่นคือ ลงมือทำ ณ บัดนาว


ใส่ความเห็น